3 นักเตะที่เคยแขวนสตั๊ดแล้วกลับมาสู่วงการฟุตบอลอาชีพอีกครั้ง

นักเตะที่เคยแขวนสตั๊ดแล้วกลับมาวงการ

มีนักฟุตบอลที่แขวนสตั๊ดไปแล้วแต่สุดท้ายก็หวนคืนกลับสู่เวทีวงการลูกหนังอีกครั้ง ไม่ว่าจะสาเหตุใดกีฬาฟุตบอลนี้ก็ไม่สามารถที่จะลบออกจากใจพวกเขาได้ ซึ่งเป็นกีฬาที่พวกเขานั้นรักอย่างมากและทำเงินมหาศาลให้พวกเขาได้มีชีวิตที่ดี และ 3 นักเตะวันนี้ที่เคยเป็นตำนาน ก็ได้กลับสู่โลกของฟุตบอลอีกครั้ง เพราะเป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้เขามีความสุขในชีวิตได้

ซิโก้ : ตำนานที่ยังมีลมหายใจ แห่งประเทศบราซิล เขาคือตำนานที่ผู้คนต่างรู้จักในนามหมายเลขเสื้อเบอร์ 10 เขาคือวีรบุรุษในชุดที่คว้าฟุตบอลโลกอันดับที่ 3 ในปี 1978 ได้ เรียกว่าเป็นตัวเปลี่ยนเกมผลบอลสดในช่วงเวลานั้นและต่อมานั้นเขาก็ได้ประกาศแขวนสตั๊ดในปี 1989 เพื่อที่จะก้าวเข้าสู่ในอาชีพใหม่ และอาชีพนั้นที่เขาเลือกเส้นทางใหม่นั้น คืออาชีพรัฐมนตรีกระทรวงกีฬาของประเทศบราซิล แต่ทำอยู่ได้ไม่นาน

สุดท้ายเขาก็หวนกลับมาสู่สนามฟุตบอลอีกครั้ง เพราะไม่มีอะไรที่จะมีความสุขเท่ากับการเล่นฟุตบอล แต่ก็อย่างว่าคงไม่ได้ลงในทีมใหญ่เหมือนเคย เขาได้บินไปค้าแข้งที่ประเทศญี่ปุ่น ในลีกฟุตบอลอาชีพอย่างเป็นทางการตอนยุค 90 แน่นอนว่าเขาทำผลงานได้ดีเลยทีเดียวจนแฟนบอลญี่ปุ่นและบราซิลนั้นยอมรับในตัวเขาเป็นอย่างมาก ถือว่าเป็นนักเตะอีกหนึ่งคนที่มีใจรักกีฬาฟุตบอล

โซคราเตส : ตำนานฟุตบอลที่จากวงการไปแบบไม่หวนกลับมา และเขาก็ได้ทิ้งเรื่องราวดีๆไว้มากมายให้เราได้ชื่นชม โซคราเตส เขาเป็นหนึ่งนักเตะที่มีความทะเยอทะยานสูงเพื่อจะพัฒนาชีวิตตัวเองอยู่ตลอดเวลา เขาเคยเป็นกองหน้ามิดฟิลด์ตัวรุกที่ขึงขังและดุดันเฉียบไวจบสกอร์แบบแม่นยำ แต่ต่อมาไม่นานนั้นเขาก็ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะแขวนสตาร์ทและเลือกเล่นฟุตบอลอาชีพ เพื่อจะไปศึกษาเล่าเรียนทางด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์

และแน่นอนว่านักเตะรายนี้ เป็นที่ยอมรับว่าเป็นนักเตะที่ดีและมีเทคนิคที่เหลือล้น เขาเป็นนักวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้ไม่นาน กลิ่นไอของความเป็นนักฟุตบอลในตัวเขาก็เริ่มเปล่งประกายออกมาอีกครั้ง ทำให้เขาต้องหวนกลับมาลงสนามฟุตบอลในปี 2004 ทำให้แฟนบอลต้องทึ่งไปกับฟอร์มการเล่น โซคราเตส และได้เซ็นสัญญากับสโมสรระดับล่างของอังกฤษ สวมเสื้อเบอร์ 6 ลงสนาม และนี่คือจุดเปลี่ยนในชีวิตเค้าและเค้าก็ไม่ควรที่จะกลับไปทำอาชีพอื่นอีกเลยนอกจากการเตะฟุตบอล

มาร์ค โอเวอร์มาร์ส : ตำนานตัวรุกลากริมเส้นอย่าง มาร์ค โอเวอร์มาร์ส อดีตนักเตะสโมสรอาร์เซนอล ที่ทุกคนนั้นคุ้นเคยกันเป็นอย่างมาก กับนักเตะตัวเก๋าคนนี้ เขาเป็นคนที่มีพรสวรรค์ทางด้านฟุตบอลเป็นอย่างมาก ยิงได้ทั้งซ้ายและขวา เฉียบขาดทุกประตูที่เขาจบสกอร์ และวิ่งเร็วที่สุดในทีมอีกด้วยในเวลานั้น และเขาก็เป็นคนที่อดทนสูงเวลาบาดเจ็บจากการโดนปะทะในสนามมา เขาก็ยังฝืนเล่นต่อเพื่อให้เกมจบและออกมาดี แต่ถ้าว่าอาการบาดเจ็บของเขานั้นสะสมอย่างมาก จนต้องประกาศแขวนสตั๊ดในปี 2004

แต่เวลาต่อมาไม่นานอาการบาดเจ็บของเขาน่าจะคงหายดีแล้ว จึงหวนกลับมาลงเล่นฟุตบอลอีกครั้งในปี 2008 คราวนี้เขาได้ลงแข่งขันกับทีมเล็กๆ ในลีกของฮอลแลนด์ แล้วเขาก็โชว์ฝีไม้ลายมือการเลี้ยงบอลระดับตำนานปีกจรวด ให้แฟนบอลฮอลแลนด์ได้เห็นและได้ชม จับเวลาต่อมาเขาก็ได้เลิกเล่นฟุตบอลอย่างชั่วคราว เพราะเนื่องจากอายุมากแล้วและกับอาการบาดเจ็บที่สะสมมานาน

สเตฟเฟ่น รับ นอนไม่หลับหลังพลาดในรอบตัดเชือกเอฟเอ คัพ

สเตฟเฟ่น รับ นอนไม่หลับหลังพลาดในรอบตัดเชือกเอฟเอ คัพ

แซ็ค สเตฟเฟ่น นายทวารมือสองทีมชาติสหรัฐอเมริกา ออกมายอมรับผ่านโซเชียลมีเดียว่าเขาถึงกับนอนไม่หลับหลังมีความผิดพลาดในเกมที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นั้นแพ้ให้กับ ลิเวอร์พูล ด้วยสกอร์ 3-2 ในเกมรอบรองชนะเลิศฟุตบอลเอฟเอ คัพ

จอมหนึบทีมชาติสหรัฐอเมริกา นั้นพลาดจนเสียประตูที่ 2 หลังพยายามเล่นกับฟุตบอลหน้าประตู ก่อนที่จะโดน ซาดิโอ มาเน่ แย่งเข้าไปยิงประตูในนาทีที่ 17 “การทดลองและความผิดพลาด ความล้มเหลวและความสำเร็จ นี่แหละคือชีวิต” แซ็ค สเตฟเฟ่น กล่าวบนทวิตเตอร์ส่วนตัว หลังเกมเมื่อวันเสาร์

“เกมเมื่อวันนี้มันยากเกินกว่าจะข่มตาหลับขับตานอน สิ่งที่พวกเราสามารถทำได้คือการให้กำลังใจและเติบโตไปกับมันให้ได้ ขอบคุณแฟนบอลที่เดินทางตามออกมาเชียร์พวกเราในเกมนี้ พวกเราจะทำงานหนักและทำให้พวกคุณภูมิใจอีกครั้ง พวกเราจะเดินหน้ากันต่อไปหลังจากนี้”

พอช รับ ปารีส ยังเจ็บปวดหลังตกรอบแชมเปี้ยนส์ ลีก

พอช รับ ปารีส ยังเจ็บปวดหลังตกรอบแชมเปี้ยนส์ ลีก

เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ นายใหญ่ของทีมปารีส แซงต์ แชร์กแมง ออกมาตำหนิฟอร์มการเล่นของทีมในลีกเอิง ฝรั่งเศส เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลังพวกเขาออกไปปราชัยให้กับทีมอย่าง โมนาโก ด้วยสกอร์ 3-0

โดยที่ผู้จัดการทีมชาวอาร์เจนไตน์ ก็ออกมายอมรับด้วยว่าพวกเขายังคงเจ็บปวดจากการตกรอบฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แค่เพียงรอบ 16 ทีมสุดท้าย ด้วยน้ำมือของทีมเรอัล มาดริด “ผมคิดว่ากับการที่เราออกสตาร์ทเกมนี้ มันเป็นอะไรที่ยอมรับไม่ได้” ผู้จัดการทีมชาวอาร์เจนไตน์ กล่าวกับนักข่าวหลังเกม

“ในการแข่งขันระดับนี้ คุณไม่สามารถเริ่มต้นเกมแบบนั้นได้เลย พวกเราคงพอใจที่ตามหลัง 1-0 ตนพักครึ่ง เพราะว่าพวกเราควรจะตามหลัง 2-0 หรือ 3-0 ได้ง่ายๆ เห็นได้ชัดเจนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มันสร้างความเสียหายมากมาย ทีมของเราต้ดองการเวลาพักหลังจากนั้น มันเป็นสิ่งที่ขัดขวางไม่ให้เราแสดงผลงานที่ดีที่สุดของพวกเราได้ในขณะนี้”

คอนเต้ ชาบู “ไก่” ฟอร์มสุดเพอร์เฟ็คหลังบุกชนะ “เรือ” คาบ้าน

คอนเต้ ชาบู “ไก่” ฟอร์มสุดเพอร์เฟ็คหลังบุกชนะ “เรือ” คาบ้าน

หลังจากการคว้าชัยชนะต่อเนื่อง 14 จาก 15 เกมนัดหลังสุด ทีมจ่าฝูงอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นั้นเจอกับความพ่ายแพ้เป็นครั้งแรกด้วยการแพ้คาบ้านให้กับทีมท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส ด้วยสกอร์ 3-2 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

“มันเป็นชัยชนะที่สำคัญสำหรับทีมของเราในการพบกับทีมที่ยอดเยี่ยมอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มันเป็นคำชมที่เรามอบให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พวกเขาเป็นทีมที่ดีที่สุดในโลก” อันโตนิโอ คอนเต้ กล่าว

“พวกเราเคลื่อนบอลได้ดีมากๆและประตูแรกของเขาก็โดดเด่นมากๆ พวกเราเตรียมพร้อมกับสถานการณ์แบบนี้ ชัยชนะมันเป็นการมอบความมั่นใจให้กับพวกเรากับสิ่งที่พวกเรากำลังทำอยู่”

“แต่พวกเราก็รู้ดีว่าเราสามารถที่จะเดินหน้าต่อไปได้ พวกเรามีเกมให้ลงเล่นหลายเกมและพวกเราก็ต่อสู้อย่างมากมายสำหรับการขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งนี้ มันเป็นสปิริตที่ยอดเยี่ยมที่เราแสดงออกมา แนวการต่อสู้และการป้องกันของพวกเรา คุณต้องเล่นเกมรับให้ดีและเล่นเกมรุกให้ดีเช่นเดียวกัน”

ริเบรี่ เตรียมยกเลิกสัญญาและรีไทร์

ริเบรี่ เตรียมยกเลิกสัญญาและรีไทร์

ฟร้องค์ ริเบรี่ อดีตสตาร์ของทีมบาเยิร์น มิวนิค นั้นเตรียมที่จะยกเลิกสัญญากับทีมซาแลร์ริตาน่า และเตรียมตัดสินใจที่จะรีไทร์จากวงการฟุตบอลอย่างเป็นทางการจากการคอนเฟิร์มของสื่ออย่าง GOAL

ริเบรี่ นั้นย้ายมาร่วมทีมซาแลร์ริตาน่า หลังหมดสัญญากับทีมฟิออเรนติน่า เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา ก่อนที่จะเซ็นสัญญา 1 ปีกับทีมซาแลร์ริตาน่า ทีมน้องใหม่ของศึกฟุตบอลกัลโช เซเรีย อา

กองหน้าวัย 38 ปี นั้นลงเล่นในฤดูกาลนี้ไปแล้ว 12 เกม ให้กับทีมซาแลร์ริตาน่า แต่กระนั้นก็ไม่พอที่จะทำให้ทีมของพวกเขานั้นหลุดจากตำแหน่งอันดับสุดท้ายของกัลโช เซเรีย อา ได้

สื่ออย่าง GOAL นั้นเปิดเผยว่า ฟร้องค์ ริเบรี่ นั้นกำลังพิจรณาออปชั่นของเขาและอาจจะตัดสินใจยกเลิกสัญญากับสโมสรที่เหลืออยู่ 6 เดือนและอาจจะไม่มีความสนใจที่จะเล่นฟุตบอลต่อไปหลังจากนี้ ในขณะเดียวกันที่ทีมซาแลร์ริตาน่า เองก็กำลังเล็งตัวแทนของเขาเอาไว้อย่าง ดิเอโก้ เปร็อตติ อดีตกองหน้าของทีมโรม่า

ฮัสเซลเบงค์ จวก “พี่ตู้” ได้แค่วิ่งทำทางก่อนไร้ประโยชน์

ฮัสเซลเบงค์ จวก “พี่ตู้” ได้แค่วิ่งทำทางก่อนไร้ประโยชน์

จิมมี่ ฟรอยด์ ฮัสเซลเบงค์ อดีตนำนานกองหน้าของทีม “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ออกมาแสดงความคิเห็นของเขาเกี่ยวกับการที่ โรเมลู ลูกากู นั้นกำลังเจอปัญหาเรื่องของฟอร์มการเล่นและเรื่องของการทำประตูอย่างหนักในช่วงหลัง

หลังเกมที่ เชลซี เปิดบ้านเอาชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส ด้วยสกอร์ 2-0 จิมมี่ ฟรอยด์ ฮัสเซลเบงค์ ออกมาพูดถึงฟอร์มของ โรเมลู ลูกากู และการไร้ความพยายามในสนามของเขา

“เขาแค่วิ่งทำทางและก็ทำได้แค่นั้น เขาไม่มีการวิ่งทำทางให้กับทีม 2 จังหวะติดต่อกัน มันเป็นสิ่งที่ทำให้เราสามารถหลุดตัวประกบได้ โดยเฉพาะการเจอกับกองหลังในพรีเมียร์ลีก” จิมมี่ ฟรอยด์ ฮัสเซลเบงค์ กล่าว

“กองหน้าที่ดีๆ พวกเขาต้องการการเคลื่อนที่มากกว่า 3 ครั้งก่อนที่จะหลุดตัวประกบและมันก็ดูเหมือนว่าเขาไม่ฟิต 100 เปอร์เซนต์ด้วย หรือบางทีอาจจะกำลังต้องการประตูเพื่อความมั่นใจ ผมเองก็คงต้องส่งเขาลงเล่นทุกเกมจนกว่าเขาจะทำประตูได้ เขากำลังต้องการประตูเพื่อทำให้ตัวของเขาเองรู้สึกดีกว่านี้”

ฟาน เดอ เบ็ก ไม่สนย้ายไป นิวคาสเซิล แบบยืมตัว

ฟาน เดอ เบ็ก ไม่สนย้ายไป นิวคาสเซิล แบบยืมตัว

ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ก กองกลางของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั้นปฎิเสธโอกาสที่จะย้ายไปเล่นให้กับ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด แบบยืมตัวจนจบฤดูกาลนี้

ราร์ฟ รังนิก ผู้จัดการทีมชั่วคราวของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั้นยังคงต้องการที่จะเก็บตัวสตาร์ชาวเนเธอร์แลนด์ รายนี้เอาไว้กับทีมต่อไป แม้ว่าตัวนักเตะจะไม่ค่อยได้รับโอกาสลงเล่นสักเท่าไหร่นักก็ตาม

ซึ่งทาง นิวคาสเซิล ที่กำลังต้องการเสริมทัพให้แข็งแกร่งขึ้น นั้นก็ให้ความสนใจในตัวนักเตะรายนี้เช่นกัน แต่สุดท้ายก็ถูกปฎิเสธไปแล้ว ซึ่งอาจจะเป็นเพราะอันดับของ นิวคาสเซิล ที่เสี่ยงต่อการตกชั้น

ฟาน เดอ เบ็ก นั้นได้ลงเล่นในเกม พรีเมียร์ ลีก นัดล่าสุดกับ แอสตัน วิลล่า ในช่วงท้ายเกม ซึ่งผลงานก็ต้องแบ่งแต้มกันไป เพราะเสมอกันด้วยสกอร์ 2 ประตูต่อ 2 โดยเจ้าตัวยังไม่เคยได้ลงเล่นเป็นตัวจริงให้กับทีมเลยในฤดูกาลนี้ โดยเจ้าตัวน่าจะต้องการที่จะย้ายทีม แต่ก็ถูก ราร์ฟ รังนิก รั้งเอาไว้อย่างเต็มที่ แต่คงรั้งไม่ได้ตลอด และถ้าเขายังไม่ได้ลงเล่น อาจจะเกิดการย้ายทีมในซัมเมอร์นี้

ชิก ยันไม่ย้ายทีม แม้เป็นข่าวกับ ซิตี้

ชิก ยันไม่ย้ายทีม แม้เป็นข่าวกับ ซิตี้

แพททริค ชิก กองหน้าของไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น นั้นออกมายอมรับว่า การสนใจของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นั้นทำให้เขารู้สึกดีเป็นอย่างยิ่ง แต่อย่างไรก็ตาม เขายังไม่คิดที่จะย้ายทีมในตอนนี้อย่างแน่นอน

หลังจากที่กองหน้ารายนี้ มีผลงานที่ย่ำแย่กับ โรม่า จนทำให้ต้องย้ายมาเล่นให้กับ เลเวอร์คูเซ่น ในเยอรมันแทน แต่ที่นี่ กลายเป็นที่ที่ทำให้เขามีผลงานที่ดีอีกครั้ง ทำไปได้ถึง 17 ประตู จากการลงเล่นไป 15 นัด

ทำให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องการตัวนักเตะรายนี้ไปร่วมทีมทันที เพราะว่าทีมยังขาดกองหน้าเบอร์ 9 อยู่ในปัจจุบัน “แน่นอน มันเป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้วที่ได้อ่านอะไรแบบนี้ โดยเฉพาะการเป็นข่าวกับทีมใหญ่ แต่อย่างไรก็ตาม ผมเองก็มีความสุขดีกับ เลเวอร์คูเซ่น และผมอยากจะพาพวกเขาไปเล่นในยูฟ่า แชมป์เปี่ยน ลีก ให้ได้” ชิก กล่าว

“ผมรักชีวิตในเยอรมัน และยังไม่คิดถึงสโมสรอื่นเลย ดังนั้นจากสถานการณ์ของผม ในตอนนี้ ผมยังไม่ต้องการที่จะย้ายออกจากทีม” โดย ชิก นั้นมีสัญญากับ เลเวอร์คูเซ่น ถึงปี 2025 ด้วยกัน ทำให้เขายังสามารถทำงานกับทีมได้อีกหลายปี

คิมมิช กลับมาซ้อมได้อีกครั้งหลังหายจากโควิด

คิมมิช กลับมาซ้อมได้อีกครั้งหลังหายจากโควิด

โจชัวร์ คิมมิช กองกลางชาวเยอรมันของบาเยิร์น มิวนิค นั้นกลับไปร่วมซ้อมกับทีมได้อีกครั้ง หลังจากที่หายจากอาการโควิด 19 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

คิมมิช นั้นไม่ได้ลงเล่นให้กับทีมมาเป็นเดือน หลังจากที่ติดเชื้อโควิด 19 ไป จนทำให้ปอดของเขามีปัญหา และต้องพักฟื้นนานกว่านักเตะคนอื่นๆ

อย่างไรก็ตาม มีรายงานล่าสุดออกมาว่า นักเตะวัย 26 ปี รายนี้ กลับมาลงสนามช่วยทีมได้อีกครั้งแล้ว หลังจากที่หายจากโควิด 19 เป็นที่เรียบร้อย และใช้เวลาพักฟื้นนานกว่า 47 วันด้วยกัน ปัจจุบัน ผลงานของ บาเยิร์น มิวนิค นั้นนำโด่งเป็นจ่าฝูงของลีก โดยมีแต้มนำ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ อยู่ 7 แต้มด้วยกัน

โดยทาง คิมมิช นั้นจะสามารกลับมาช่วยทีมได้ในเกมนัดต่อไปกับ โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค ในวันศุกร์นี้ สำหรับนักเตะรายนี้ เป็นอีกหนึ่งนักเตะที่ไม่ยอมเข้ารับการฉีดวัคซีน จนทำให้ติดเชื้อและอาการหนักกว่าคนอื่น ทำให้ปัจจุบัน เขาตัดสินใจยอมเข้ารับการฉีดวัคซีนแล้ว

ฮิวจ์ส ใช้เวลาหลายปีกว่าจะหายโกรธ “เซอร์” หลังโดนขายทิ้ง

ฮิวจ์ส ใช้เวลาหลายปีกว่าจะหายโกรธ “เซอร์” หลังโดนขายทิ้ง

มาร์ค ฮิวจ์ส ตำนานนักเตะของทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมายอมรับว่าเขาใช้เวลาหลายปีกว่าจะหายโกรธ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน หลังการตัดสินใจปล่อยตัวเขาไปร่วมทีมเชลซี เมื่อปี 1986

ฮิวจ์ส นั้นมีผลงาน 47 ประตู ภายใต้การลงสนาม 121 เกมให้กับทีม “ปีศาจแดง” ก่อนที่จะย้ายไปอยู่กับทีมบาร์เซโลน่า และ บาเยิร์น มิวนิค ก่อนที่จะกลับมาอยู่กับทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกครั้งเป็นระยะเวลา 7 ฤดูกาล

“เซอร์ อเล็กซ์ ต้องการปล่อยตัวผมให้ได้ราคาที่ดีที่สุดและขายให้ได้กำไรที่สุด จากมุมมองหนึ่งมันเป็นการบริหารที่ยอดเยี่ยม เป็นผมก็คงทำเหมือนๆกัน” มาร์ค ฮิวจ์ส กล่าว

“ความสัมพันธ์ของผมกับ เซอร์ อเล็กซ์ จบลงตรงนั้น เขารู้ว่ามีข้อเสนอจาก เชลซี และเขาไม่มีการปิดกั้นอะไร แต่ผมก็แฟร์ๆกับเขาเหมือนกัน อีกหนึ่งปีต่อมาเขาส่งจดหมายให้กับผมและขอบคุณความพยายามของผมที่มีให้กับสโมสร ผมยังคงมีจดหมายนั้น ผมได้เจอกับเขาอีกครั้งและเขาก็ยังคงคุยกันเป็นอย่างดี”