หมวดหมู่: ข่าวพรีเมียร์ลีก

อีฟส์ บิสซูม่าเตรียมเข้ารับการผ่าตัด และอาจจะต้องพักยาว 2 เดือน

อีฟส์ บิสซูม่า เตรียมเข้ารับการผ่าตัด และอาจจะต้องพักยาว 2 เดือน

อีฟส์ บิสซูม่า จะถูกพักรักษาตัวราว 2 เดือน เนื่องจากเขาจะเข้ารับการผ่าตัดในวันศุกร์เพื่อรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้า โดยทางด้านของ อีฟส์ บิสซูม่า ได้ย้ายเข้ามาร่วมทีม ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แต่ว่าเขาไม่ค่อยได้รับโอกาสในการลงเล่นมากซักเท่าไหร่นับตั้งแต่ย้ายมาอยู่กับทีม และตอนนี้เขาน่าจะไม่สามารถลงเล่นให้กับทีมได้แล้วในช่วงที่เหลือของฤดูกาล

แถลงการณ์จาก ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ได้ระบุว่า “เราสามารถยืนยันได้ว่า อีฟส์ บิสซูม่า จะเข้ารับการผ่าตัดในวันศุกร์เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้าซ้ายของเขา โดยระยะเวลาการฟื้นตัวของเขาจะถูกพิจารณาอีกครั้งหลังเสร็จสิ้นการผ่าตัด และเมื่อผ่าตัดเสร็จแล้ว เขาจะเริ่มพักฟื้นกับเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ของเราโดยเร็วที่สุด”

อีฟส์ บิสซูม่า เป็นผู้เล่นที่สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงที่เขาค้าแข้งกับ ไบรท์ตัน ภายใต้การคุมทีมของ เกรแฮม พอตเตอร์ แต่หลังจากที่เขาได้ย้ายมาอยู่กับ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ เขาก็ยังไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งเช่นนั้นกลับมาได้เลย โดยเขาได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงไปเพียงแค่ 8 เกมในการแข่งขัน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ และเขาก็ได้ลงเล่นในช่วงสั้นในเกมที่ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ เอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปได้ด้วย

สำหรับอีกหนึ่งผู้เล่นที่ได้รับบาดเจ็บของ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ก็คือทางด้านของ อูว์โก โยริส ซึ่งอาการบาดเจ็บในครั้งนี้อาจทำให้เขาพลาดการแข่งขันเป็นระยะเวลาถึงแปดสัปดาห์ต่อจากนี้ ซึ่งอาการบาดเจ็บของเขาคือบริเวณที่หัวเข่า สำหรับทางด้านของกัปตันทีมของ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ รายนี้ก็ประสบกับปัญหาเรื่องอาการบาดเจ็บมาตั้งแต่เกมที่พวกเขาคว้าชัยชนะเหนือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปด้วยสกอร์ 1-0 ที่ เอติฮีด สเตเดี้ยม เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ อยากได้โอกาสลงสนามให้ อาร์เซนอล ในเกมกับ ลิเวอร์พูล

เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ อยากได้โอกาสลงสนามให้ อาร์เซนอล ในเกมกับ ลิเวอร์พูล

แม้จะมีเกมที่หนักหน่วงที่ต้องลงสนามอย่างต่อเนื่อง แต่ฟอร์มการเล่นของ อาร์เซนอล ก็ยังคงร้อนแรงไม่แผ่วหลังจากที่ออกสตาร์ทฤดูกาลได้อย่างยอดเยี่ยม  และล่าสุดพวกเขาก็สามารถเก็บชัยชนะเหนือ โบโด กลิมท์ ไปด้วยสกอร์ 3-0 ไปได้อีกครั้ง ในการแข่งขัน ยูโรป้าลีก และผู้เล่นที่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในเกมนี้ก็ต้องยกให้กับทางด้านของ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ที่สามารถยิงประตูแรกให้กับ อาร์เซนอล ได้หลังจากที่ได้รับโอกาสได้ลงเล่น

และจากฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นในเกมนี้ทำให้ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ มีความพร้อมอย่างมากสำหรับเกมในวันอาทิตย์ที่จะต้องเผชิญหน้ากับคู่แข่งอย่าง ลิเวอร์พูล ที่เพิ่งจะเอาชนะ เรนเจอร์ส มาได้ในการแข่งขัน แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อไม่กี่วันมานี้ ซึ่งชัยชนะในนัดนี้ก็ทำให้ทางด้านของ ลิเวอร์พูล เองก็มีความมั่นใจก่อนเกมนี้เช่นกัน

อย่างไรก็ตามในเกม พรีเมียร์ลีก ที่นัดต่อไปทางด้านของ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ อาจจะต้องลงไปนั่งที่ม้านั่งสำรองอีกครั้ง และน่าจะเป็นทางด้านของผู้เล่นที่ทำผลงานมาได้ดีตลอดอย่าง กาเบรียล เฆซุส ที่น่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในเกมนั้น และเขาน่าจะเป็นผู้เล่นที่ มิเคล อาร์เต้ตา ไว้วางใจมากกว่า

เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ได้เคยออกมาแสดงความไม่พอใจในช่วงก่อนหน้านี้หลังจากที่เขายังไม่ได้รับโอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงให้กับ อาร์เซนอล เลยในเกมนัดก่อนหน้านี้ แต่แน่นอนว่าหลังจากที่เขาสามารถทำประตูได้ในเกมล่าสุด เขาก็ต้องคาดหวังว่าเขาจะได้รับโอกาสในการลงเล่น แต่ก็ต้องมาดูกันว่าสุดท้ายแล้ว มิเคล อาร์เตต้า จะตัดสินใจอย่างไรต่อไป

แอนโทนี่ โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมเดบิวต์ให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

แอนโทนี่ โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมเดบิวต์ให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

แอนโทนี่ ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมแรกที่เขาได้มีโอกาสลงเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากที่เขาได้เซ็นสัญญากับสโมสรก่อนที่จะปิดตลาดซื้อขายนักเตะ ซึ่งเขาสามารถยิงประตูเปิดให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นฝ่ายขึ้นนำคู่แข่งที่ยังไม่แพ้ใครเลยในฤดูกาลนี้อย่าง อาร์เซนอล ทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จบครึ่งแรกด้วยการขึ้นนำ 1-0 จากประตูของแข้งทีมชาติบราซิลวัย 22 ปีที่เพิ่งย้ายมาจาก อาแจ็กซ์

หลังจากที่เขายิงประตูได้และกำลังวิ่งดีใจพร้อมกับเอามือวางไปที่ตราสัญลักษณ์ของสโมสรบนเสื้อแข่ง ทางด้านพี่ใหญ่ของสโมสรอย่าง คริสเตียโน โรนัลโด้ ที่นั่งเป็นผู้เล่นสำรองอยู่ที่ข้างสนามถึงกับต้องยืนขึ้นพร้อมกับชูมือขึ้นเหนือศีรษะและปรบมือให้กับการยิงประตูของ แอนโทนี ในครั้งนี้ และตอนนี้เขาก็ได้ขึ้นแท่นเป็นซูเปอร์สตาร์คนใหม่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

แอนโทนี่ ได้ย้ายจาก อาแจ็กซ์ มาร่วมทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในวันสุดท้ายของตลาดซื้อขายนักเตะด้วยค่าตัว 86 ล้านปอนด์ ซึ่งเขาเพิ่งจะร่วมฝึกซ้อมกับทีมได้ไม่นานหลังจากที่เข้ารับการตรวจร่างกายกับทีมแพทย์ของสโมสร แต่เขากลับเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้ทีมของ เอริค เทน ฮาก คว้าชัยใน พรีเมียร์ลีก เป็นนัดที่ 4 ติดต่อกันได้หลังจากเริ่มต้นฤดูกาลด้วยความพ่ายแพ้ 2 นัดติดต่อกัน และตอนนี้ก็ดูเหมือนว่าทีมของ เอริค เทน ฮาก จะกลายเป็นทีมที่น่ากลัวสำหรับทีมคู่แข่งใน พรีเมียร์ลีก เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

และแน่นอนว่า เอริค เทน ฮาก น่าจะประเมินผู้เล่นรายนี้ของเค้าไว้ในระดับที่สูงมากถึงกล้าที่จะให้ผู้เล่นออกสตาร์ทเป็นตัวจริงทั้งๆ ที่เขาได้ฝึกซ้อมร่วมกับทีมเพียงแค่ 2 ครั้งเท่านั้น ซึ่งเหตุผลหนึ่งอาจจะมาจากการที่ทั้งสองคนนี้เคยเล่นด้วยกันมาก่อนแล้ว และ เอริค เทน ฮาก ก็น่าจะรู้วิธีที่จะใช้งานผู้เล่นของเขาอย่างไร และตอนนี้มันก็ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คิดไม่ผิดที่ยอมทุ่มเงินเพื่อซื้อตัวนักเตะหนุ่มรายนี้มาร่วมทีม

เอริค เทน ฮาก ต้องการเสริมตัวผู้เล่นอีก 5 คนในฤดูกาลนี้

เอริค เทน ฮาก ต้องการเสริมตัวผู้เล่นอีก 5 คนในฤดูกาลนี้

เอริค เทน ฮาก ผู้จัดการทีมของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องการนักเตะใหม่มากถึง 5 รายก่อนที่จะมีการปิดตลาดซื้อขายนักเตะในวันที่ 1 กันยายน ตามรายงานจากสำนักข่าวในต่างประเทศ และในตอนนี้ เอริค เทน ฮาก ต้องการที่จะเสริมแกร่งให้กับทีมของเขาสำหรับผู้เล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตู ซึ่งทางด้านของ เซอร์จิโอ โรเมโร ก็ต้องการที่จะกลับมายัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ว่าในตอนนี้ยังไม่มีอะไรที่บ่งบอกได้ว่าแข้งทีมชาติอาร์เจนติน่าจะได้กลับมาเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

สำหรับการซื้อขายนักเตะของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงซัมเมอร์นี้ แม้ว่าสโมสรจะสามารถเซ็นสัญญากับ ไทเรล มาลาเซีย ของ เฟเยนูร์ด, คริสเตียน อีริคเซ่น จาก เบรนท์ฟอร์ด และ ลิซานโดร มาร์ติเนซ ของ อาแจ็กซ์ แต่ เอริค เทน ฮาก ก็ยังรู้สึกว่าทีมของเขายังคงต้องเสริมตัวนักเตะเข้ามาในทีมอีกหากเป้าหมายของสโมสรคือการคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก เป็นครั้งแรกหลังจากห่างหายจากโมเมนต์นี้มานานตั้งแต่ปี 2013

ตามรายงานของสำนักข่าวในเมือง แมนเชสเตอร์ ได้มีการรายงานเอาไว้ว่า เอริค เทน ฮาก ต้องการนักเตะฝีมือดีเข้ามาในทีมประมาณ 5 คน ซึ่งในตอนนี้เขาน้าจะอยากได้ผู้เล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตูมาร่วมทีมมากที่สุดหลังจากที่ตัดสินใจปล่อย ดาบิด เด เคอา ออกจากทีมไปด้วยสัญญายืมตัว และนอกจากผู้เล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตูแล้วอีกหนึ่งตำแหน่งก็คือผู้เล่นในตำแหน่งกองกลาง ซึ่งเป้าหมายหลักของพวกเขาก็คงหนีไม่พ้น แฟรงกี้ เดอ ยอง

ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ เตรียมซื้อนักเตะเพิ่มอีก 5 คน หลังเริ่มดีลกับ อีวาน เปริซิช

อีวาน เปริซิช

ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ได้แสดงถึงความต้องการในตลาดซื้อขายนักเตะในช่วงซัมเมอร์นี้ และเตรียมพร้อมที่จะมอบสิ่งที่เขาต้องการให้กับผู้จัดการทีมอย่าง อันโตนิโอ คอนเต้ และแน่นอนว่า อันโตนิโอ คอนเต้ มีแนวโน้มที่จะอยู่กับ สเปอร์ส ต่อในฤดูกาลหน้า หากสโมสรยินยอมให้ อันโตนิโอ คอนเต้ ช็อปปิ้งนักเตะเพิ่มเติมในช่วงซัมเมอร์ เนื่องจากเป้าหมายในฤดูกาลหน้าของ อันโตนิโอ คอนเต้ คือการคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก

ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ได้ประกาศในสัปดาห์นี้ว่าพวกเขาได้รับเงินลงทุนเพิ่มสูงถึง 150 ล้านปอนด์จากผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง ENIC ซึ่งช่วยให้ทีมมีความยืดหยุ่นทางการเงินมากขึ้น และมีความสามารถในการลงทุนเพิ่มเติมทั้งในและนอกสนาม และหลังจากที่สโมสรสามารถจบใน 4 อันดับแรกของ พรีเมียร์ลีก ได้ ทางด้านของ อันโตนิโอ คอนเต้ ก็ต้องการยกระดับทีมให้กลายเป็นทีมที่แข็งแกร่ง เพื่อท้าชิงตำแหน่งแชมป์ พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาลหน้า โดยเขาเผยว่าทีมจะต้องมีการเสริมตัวนักเตะอย่างน้อย 6 คน

หลังจากที่ อันโตนิโอ คอนเต้ เฮดโค๊ชชาวอิตาลีเซ็นสัญญาระยะเวลา 6 เดือนกับ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ เขาก็ช่วยให้ทีมสามารถจบในอันดับที่ 4 ได้ในการแข่งขัน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ และการที่เขาช่วยให้ทีมผ่านเข้าไปเล่นใน แชมเปี้ยนส์ลีก ช่วยให้ทีมมีกำลังซื้อข่ายเพิ่มมากขึ้น และตอนนี้พวกเขาก็กำลังทำการเคลื่อนไหวในการเซ็นสัญญากับนักเตะ ซึ่งตอนนี้เขากำลังฟาดฟันกับ เชลซี และ ยูเวนตุส เพื่อเซ็นสัญญากับ อีวาน เปริซิช ซึ่งกำลังจะหมดสัญญากับ อินเตอร์ มิลาน

ตอเรส ยืนยันลงสนามในเกมการกุศลกับหงส์แดง

ทางฝั่งยานแม่ บาร์เซโลน่า เองก็มีนักเตะระดับตำนานหลายคนที่ตอบรับมาแล้วไม่ว่าจะเป็นแพทริค ไคลเวิร์ต, เอ็ดการ์ ดาวิดส์ , ชูเลียโน่ เบลเล็ตติ ,  ฮาเวียร์ ซาวิโอล่า ส่วนทางฝั่งหงส์แดงก็ยังเป็นนักเตะระดับตำนานที่พร้อมกลับมาลงสนามให้ไม่ว่าจะเป็น เยอร์ซี่ ดูเด็ค , ฟาบิโอ ออเรลิโอ้ ,เจสัน แม็คคาเทียร์ ,วลาดิเมียร์ ซมิเซอร์ ,  โฆเซ่ เอ็นริเก้ , แพทริค แบร์เกอร์,หลุยส์ การ์เซีย

อีกหลายคนงานนี้แฟนบอลเตรียมตัวกันได้เลยซึ่ง เกมนี้กำหนดกันแล้วว่าเตะกันที่ถิ่นแอนฟิลด์และเกิดขึ้นในวันที่ 28 มีนาคมปีหน้า ก็ถือว่าเป็นเกมที่แฟนบอลห้ามพลาดแม้จะเป็นแค่แมตซ์ การกุศลก็ตาม 

เปเย เป๋ไม่เลิกสักที งานนี้อาจโบกมือลา

มานูเอล เปเยกรี่นี่

เกมเมื่อค่ำคืนวันเสาร์สัปดาห์ก่อนที่ผ่านมาตอนช่วง 3 ทุ่ม หลายคนอาจไม่ได้สนใจอะไรมากนัก แต่มันมีบอลอยู่คู่หนึ่งที่แฟนบอลทั้ง 2 ทีมจับตามองเป็นอย่างมากว่าใครจะคว้าแต้มแรกบนศึกพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ไปได้ระหว่าง “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล ที่เปิดรังเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของ “ขุนค้อน” เวสต์แฮม ยูไนเต็ด โดยก่อนเกมต้องบอกว่าพวกเขายังไม่สามารถเก็บคะแนนได้เลยแม้แต่แต้มเดียวด้วยการแพ้ 2 นัดรวม เกมนี้จึงเป็นเหมือนแมตช์ที่บ่งบอกว่าใครจะได้แต้มไปก่อนหรือจะแบ่งกันคนละแต้ม

เริ่มเกมดูเหมือนทีมเยือนจะทำผลงานได้ดีกว่าด้วยการออกนำไป 1-0 จากประตูของ มาร์โก อาร์เนาโตวิช นาทีที่ 25 แต่เฮได้ไม่นานเจ้าบ้านก็มาตีเสมอในอีก 5 นาทีต่อมาจาก นาโช่ มอนเรอัล ก่อนจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้ มาในครึ่งหลังนาทีที่ 70 กลายเป็นเจ้าบ้านพลิกแซงนำจากการทำเข้าประตูตัวเองของ อิสซ่า ดิยุฟ และช่วงทดเวลาบาดเจ็บพวกเขามาได้ประตูย้ำชัยชนะจากการยิงอย่างเลือดเย็นของ แดนนี่ เวลเบ็ค จบเกมอาร์เซน่อลเอาชนะในศึกลอนดอน ดาร์บี้แมตช์ ไปได้ 3-1 อีกทั้งยังถือเป็นการปลดล็อกของ อูไน เอเมรี่ ที่ก่อนหน้านี้ 2 เกมยังเก็บแต้มไม่ได้เลย

ตำแหน่งกุนซือเกิดอาการร้อนฉ่า

แต่ที่เห็นถูกขึ้นเป็นเต็งหนึ่งในการจะโดนปลดเป็นคนแรกในฐานะตำแหน่งกุนซือคนหนีไม่พ้น มานูเอล เปเยกรี่นี่ นายใหญ่ชาวชิลีที่ทีมอุตส่าห์ให้เงินในการกระชากตัวนักเตะมาร่วมทัพอย่างเต็มที่เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แต่กลับทำผลงานได้อย่างย่ำแย่ เล่น 3 นัด ยังเก็บไม่ได้สักคะแนนเดียว แถมโดนยิงกระจุยแทบทุกนัด งานนี้นอกจาก เปเยกรินี่ จะเก้าอี้ร้อนแล้ว แฟนบอลรวมถึงบอร์ดบริหารเองก็หัวร้อนไม่แพ้กัน เพราะอุตส่าห์ลงทุนให้เต็มที่โดยหวังว่าจะทำให้ทีมได้มีโอกาสไต่ไปเล่นในบอลถ้วยยุโรปกับเขาบ้าง จะบอกว่าการจูนทีมยังไม่ลงตัวก็พูดไม่ได้เต็มร้อยเพราะเขาไม่ได้เพิ่งเข้ามาทำทีมก่อนเปิดซีซั่นไม่กี่วัน แต่เขามีเวลาเยอะพอตัวในการปรับทีมเพื่อสู้ศึกในปีนี้

ทีแรกหลายคนยังมองว่า แม้เขาจะไปคุมทีมในลีกจีน แต่ด้วยชื่อของการเคยพาแมนฯ ซิตี้ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นี่จึงเป็นโอกาสให้เขาได้กลับมาพิสูจน์ฝีมืออีกครั้ง ทว่าไป ๆ มา ๆ กุนซือรายนี้กลับหมดมุกในการคุมทีมไปเรียบร้อยแล้ว เรื่องนี้อีกไม่นานคงได้คำตอบ

โพลชี้ชัด แฟนหงส์ร้องยี้ไม่เอา คาริอุส เป็นมือ 1

แฟนหงส์ร้องยี้ไม่เอา คาริอุส

อนาคตการค้าแข้งของ ลอริส คาริอุส ในถิ่นแอนฟิลด์ทำท่าจะไม่ราบลื่นเท่าไหร่นักในฤดูกาลหน้าเพราะได้มาการเปิดโหวตถามแฟนบอล ลิเวอร์พูล ว่ายังสนับสนุนตัวของนายประตูรายนี้ให้เป็นมือ 1 ต่อไปหรือไม่ ผลปรากฏว่า 74% ไม่อยากให้ เจอร์เก้น คล๊อปป์ มอบหมายตำแหน่งนี้ให้กับผู้รักษาประตูชาวเยอรมัน

แม้ว่าก่อนหน้านี้ คล๊อปป์ จะออกมาแสดงความเชื่อมั่นกับผู้รักษาประตูร่วมชาติในการจะส่งลงเป็นมือหนึ่งต่อไปและให้ลืมฝันร้ายของนัดชิงยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกทิ้งไปซะ แต่ในเกมอุ่นเครื่องนัดที่ 2 ของทีม คาริอุส ได้ทำผลงานผิดพลาดอีกครั้งซึ่งเป็นรับบอลกระฉอกเข้าประตูตัวเองไปซ้ำรอยนัดชิงบอลยุโรปอย่างกะฉายภาพซ้ำ

หลังจบเกมได้มีโพลมาสำรวจแฟนๆของทีมทันทีในหัวข้อว่าอยากให้ คาริอุส ยึดมือ 1 ของทีมต่อไปหรือไม่ และจากผลโหวตของแฟนบอลท้องถิ่นกว่าหลายพันคนออกมาว่า 74% ไม่อยากให้เป็นมือ 1, 17% ไม่แน่ใจนัก และ 9% สุดท้ายเชื่อใจนายประตูรายนี้ต่อไป
ลิเวอร์พูล ตอนนี้ก็กำลังตกเป็นข่าวในการไปขอซื้อตัว อลิสสัน นายทวารสุดเหนียวของ โรม่า อีกครั้งและครั้งนี้เตรียมทุ่มเงินกว่า 60 ล้านยูโรเพื่อล่อใจให้ทีมดังแห่งกรุงโรมยอมปล่อยออกมาแต่โดยดี

นีล เอเธอร์ริดจ์ ฟิลิปปินส์ในพรีเมียร์ลีก

นีล เอเธอร์ริดจ์ ฟิลิปปินส์ในพรีเมียร์ลีก

เป็นความฝันของคนไทยหลายคนที่อยากเห็นนักฟุบอลไทยได้ลงเล่นใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซึ่งเป็นลีกที่ได้รับความนิยมที่สุดในโลก ซึ่งที่ผ่านมานั้นก็ดูเหมือนจะมีความพยายามในการส่งนักเตะไทยไปอังกฤษอยู่เรื่อยๆ แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการไปเพื่อจุดประสงค์ทางด้านการตลาดมากกว่าไปเพราะฝีเท้าจริงๆ รวมทั้งอุปสรรคใหญ่เรื่องของใบอนุญาตการทำงานในอังกฤษที่เป็นเรื่องยากมากๆที่จะได้มาเนื่องจากอันดับของทีมชาตินั้นไม่ผ่านเกณฑ์แน่นอน

แต่ว่าล่าสุดที่ยืนยันได้ 100% แล้วว่ามีประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนที่จะมีนักเตะไปเล่นในพรีเมียร์ลีก นั่นคือฟิลิปปินส์ โดยนักฟุตบอลคนนั้นคือ นีล เอเธอร์ริดจ์ ผู้รักษาประตูของ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ที่พาทีมเลื่อนชั้นขึ้นมาตามหลังทีมหมาป่า วูล์ฟแฮมตัน ที่เลื่อนชั้นมาในฐานะทีมแชมป์

ซึ่งนีล เอเธอร์ริดจ์ นั้นไม่ต้องประสบปัญหาเรื่องของ ใบอนุญาตการทำงาน หรือ Work Permit แต่อย่างใด เพราะเจ้าตัวเกิดและเติบโตอยู่ที่ ลอนดอน โดยมีพ่อเป็นคนอังกฤษ และแม่ก็เป็นคนฟิลิปปินส์ โดยเอเธอร์ริดจ์ เดิมทีนั้นเป็นเด็กปั้นของเชลซี แต่ก็ไม่สามารถเลื่อนขึ้นมาเล่นชุดใหญ่ได้ ก่อนที่จะย้ายไปอยู่กับฟูแล่มทีมร่วมกรุงลอนดอน ที่แม้จะเล็กกว่าเชลซีแต่เจ้าตัวก็ยังไม่อาจยึดตำแหน่งตัวจริงได้ แม้ว่าเจ้าตัวจะมีชื่อติดทีมชาติอังกฤษในรุ่นอายุ 16 ปีด้วย โดยในช่วงเวลา 6 ปี ที่อยู่กับฟูแล่มนั้น เอเธอร์ริดจ์ นันได้ลงเฝ้าเสาเพียงแค่ 1 นัด เท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่แล้วนายด่านฟิลิปปินส์จะใช้ชีวิตค้าแข้งไปกับการยืมตัวให้กับทีมอื่นๆมากกว่า เช่น ชาร์ลตัน บริสตอล โรเวอร์ ครู อเล็กซานดร้า โอลด์แฮม ซึ่งเจ้าตัวมาทำได้ดีก็ตอนที่อยู่กับชาร์ลตัน ตามด้วยวอลซอลล์ ในลีกวัน และไปเข้าตาคาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ทีมดังของเวลส์ในฤดูกาลนี้นั่นเอง

โดยเจ้าตัวได้ลงเล่นแทน ลี แคมป์ นายประตูมือ 1 โดยลงเล่นนัดแรกที่พบกับเบอร์ตัน ซึ่งเจ้าตัวก็ช่วยทีมเก็บคลีนชีทได้ด้วยและนับตั้งแต่นั้น เอเธอร์ริดจ์ ก็กลายเป็นตัวเลือกแรกในตำแหน่งผู้รักษาประตูของคาด์ดิฟฟ์ไปเลย ซึ่งหากว่าทีมไม่คิดเสริมในตำแหน่งผู้รักษาประตูใหม่เอเธอร์ริดจ์ก็จะได้ลงเล่นในลีกสูงสุดของอังกฤษปีหน้าแน่นอน

ส่วนทางด้านทีมชาตินั้นเดิมทีเจ้าตัวต้องการจะเล่นให้กับอังกฤษมากกว่าเล่นให้กับชาติบ้านเกิดของคุณแม่ แต่ในที่สุดดูเหมือนว่าเอเธอร์ริดจ์จะมองไม่เห็นโอกาสนั้นจึงได้เลือกเล่นให้กับฟิลิปปินส์แทน โดยเจ้าตัวเฝ้าเสาให้ทีมชาติมาแล้วทั้งหมด 56 นัด ซึงหากว่ากันถึงสถานการณ์ในเวลานี้แล้วหากเอเธอร์ริดจ์อดทนรอโอกาสและได้มาพิสูจน์ตัวเองในลีกสูงสุดของประเทศก็ไม่แน่ว่าการมีชื่อติดทีมชาติอังกฤษก็ไม่ใช่เป็นไปไม่ได้ด้วย เพราะอังกฤษชั่วโมงนี้ เห็นจะมีแค่ จอร์แดน พิคฟอร์ดของเอฟเวอตันเท่านั้นที่ดูดีที่สุด ส่วนคนอื่นๆนั้นก็ดรอปลงไปมากแล้ว ทั้ง เบน ฟอร์สเตอร์,แจ๊ค บัตแลนด์ หรือเฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ รวมถึง โจ ฮาร์ท ด้วย

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เตรียมดึง มาห์เรซ ลากเลื้อย

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เตรียมดึง มาห์เรซ ลากเลื้อย

ย้อนกลับไปในซีซั่นมหัศจรรย์ของเลสเตอร์ ซิตี้ ปีนี้พวกเค้าได้แชมป์แบบหักปากกาเซียนทุกสำนักทั่วโลก ปีนั้นส่วนของผู้เล่นเองต้องยอมรับเลยว่ามีหลายคนก้าวขึ้นมาเป็นดาวจรัสแสง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เจมี่ วาร์ดี้ และ ริยาร์ด มาห์เรซ สองคนนี้มีข่าวว่าจะย้ายไปอยู่ทีมใหญ่แต่ก็ไม่ได้ไป จนมาถึงตอนนี้หนึ่งในสองคนนั้นมีข่าวหนาหูอีกครั้งหนึ่ง

ข่าวจาก The Sun รายงานว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์พรีเมียร์ลีคประจำซีซั่นล่าสุดนี้ เตรียมยื่นข้อเสนอให้ทาง เลสเตอร์ ซิตี้พิจารณาแล้ว สื่อคาดว่า ซิตี้เตรียมเงินก้อนโตถึง 65 ล้านปอนด์ เพื่อดึงปีกรายนี้มาเสริมทีม แหล่งข่าวแจ้งว่าฝั่งเลสเตอร์ ซิตี้เองพวกเค้าก็ไม่อยากจะเสียนักเตะตัวหลักวัย 27 ปีคนนี้ไป เลสเตอร์ยืนยันว่าพวกเค้าจะยอมเสียนักเตะรายนี้ออกไปหากได้ราคาไม่ต่ำกว่า 85 ล้านปอนด์แถมยังยืนยันด้วยว่าตัวนักเตะเองรู้สึกมีความสุขกับทีมอยู่ไม่อยากย้ายไปไหน อย่างไรก็ตามตอนนี้ มาห์เรซ กำลังเข้าสู่ช่วงเวลาสองปีสุดท้ายของสัญญาแล้ว ซีซั่นนี้ มาห์เรซลงสนามไปทั้งหมด 37 เกม พร้อมกับทำไปทั้งหมด 11 ประตูด้วยกัน แม้ว่า เป๊ป กับเลสเตอร์ดูจะไม่สมพงศ์กันเท่าไร ดีล 2 ฉบับตอนเดือนมกราคม ซิตี้ยื่นไปโดนบอกปัดหมด แต่เชื่อว่าครั้งนี้ เป๊ป น่าจะมีลุ้นการดึง มาห์เรซ มาร่วมทีมเหมือนกัน นักเตะกำลังเข้าสู่ช่วงจุดสูงสุดของอาชีพค้าแข้ง น่าจะมองหาอะไรให้ท้าทายขึ้น แล้ว แมนเชสเตอร์ ซิตี้ก็เป็นคำตอบ