ไม่ใช่แค่ ลิเวอร์พูล ที่แพ้ทันที หลังจากคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้

กับความพ่ายแพ้ของ ลิเวอร์พูล แชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2019-20 ต่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ว่าที่รองแชมป์ด้วยสกอร์ถล่มทลาย 4-0 ที่สนามเอติฮัด สเตเดี้ยม ไม่ใช่สิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้น ทั้งที่ทีมทำผลงานก่อนหน้านี้ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม โดยบทความนี้จะยกตัวอย่าง 5 เกม ของความพ่ายแพ้ของทีมแชมป์
- ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส 3-1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด วันที่ 19 พฤษภาคม 2001
แมนฯ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ 3 สมัยติดต่อกัน ก่อนที่จะต้องลงเล่นเกมสุดท้ายของฤดูกาล โดยเป็นวิลเลม คอร์สเตน ทำคนเดียว 2 ประตู และเลส เฟอร์ดินานด์ อีก 1 ประตู ช่วยให้ทีมจากกรุงลอนดอนเก็บ 3 คะแนนไปได้ แต่ผลการแข่งขันในเกมนั้นไม่ได้เป็นที่สนใจมากนัก เมื่อเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือของทีมตกเป็นข่าวจะวางมือในการคุมทีม และเกิดข่าวลือไปต่างๆ มากมาย แม้ว่าสุดท้ายจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร
11 ตัวจริงในเกมนี้ของแมนฯ ยูไนเต็ด : ฟาน เดอร์ ฮาว, ซิลแวสต์ส, ยอห์นเซ่น, เมย์, เออร์วิน, เนวิลล์, บัตต์, กิ๊กส์, สโคลส์, โคล, เชอรืริงแฮม
- เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 3-0 เชลซี วันที่ 18 พฤษภาคม 2015
โชเซ่ มูรินโญ่พาเชลซีคว้าแชมป์ในการกลับมาคุมทีมครั้งที่สอง หลังเก็บไปได้ 87 คะแนน ทั้งที่ก่อนหน้านั้นทีมแพ้เพียง 2 เกมเท่านั้นในพรีเมียร์ลีก โดยยังมีเอแด็น อาซาร์, เชส ฟาเบรกาส และดีเอโก้ คอสต้า ที่ทำผลงานออกมาได้อย่างโดดเด่น
11 ตัวจริงในเกมนี้ของเชลซี : กูร์กตัวส์, ฟิลิเป้ หลุยส์, เคฮิลล์, เทอร์รี่, อิวาโนวิช, ฟาเบรกาส, อาซาร์, ลอฟตัส-ชีค, มาติช, คอสต้า, เรมี่
- มิดเดิ้ลสโบรห์ 4-1 ลีดส์ ยูไนเต็ด วันที่ 22 สิงหาคม 1992
ลีดส์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ลีกสูงสุดของเกาะอังกฤษได้ในฤดูกาล 1991-92 ก่อนที่จะเปลี่ยนไปเป็นพรีเมียร์ลีก แต่การลงเล่นเกมที่สามของฤดูกาล เมื่อบุกไปแพ้มิดเดิ้ลสโบรห์ ทีมที่เพิ่งจะเลื่อนชั้นมา และก็เป็นจุดเริ่มต้นถึงผลงานที่ย่ำแย่ของทีม ก่อนที่จะจบในอันดับที่ 17 ของตารางคะแนน ในขณะที่มิดเดิ้ลสโบรห์ จบอันดับที่ 21 และตกชั้น
11 ตัวจริงในเกมนี้ของลีดส์ ยูไนเต็ด : ลูคิช, แฟร์คลัฟ, นิวซัม, ไวท์, โดริโก้, แม็คอัลลิสเตอร์, แบ็ตตี้, คันโตน่า, สปีด, ชาปแมน, วัลเลซ
- ลิเวอร์พูล 4-0 อาร์เซน่อล วันที่ 6 พฤษภาคม 1998
อาร์เซน่อลของอาร์แซน เวนเกอร์ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลดังกล่าว โดยเหลือเกมการแข่งขันอีก 2 เกม ก่อนที่จะเลือกพักนักเตะตัวหลักในเกมที่พบกับลิเวอร์พูล ซึ่งทีมมีคิวเจอกับนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ในเอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ ก่อนที่จะคว้าดับเบิ้ลแชมป์ในปีดังกล่าวไปได้สำเร็จ
11 ตัวจริงในเกมนี้ของอาร์เซน่อล : แมนนิงเกอร์, ดิ๊กสัน, โบลด์, อัพสัน, กริมานดี้, ฮิวส์, พาร์เลอร์, แพล็ตต์, บัว มอร์ต, ไรท์
- แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 4-0 ลิเวอร์พูล วันที่ 2 กรกฎาคม 2020
กับเกมสดๆ ร้อนๆ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เมื่อทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์ คว้าแชมป์ได้ก่อนจบฤดูกาล และเหลือถึง 7 เกม แม้ลิเวอร์พูลจะมีโอกาสทำประตูมากมาย แต่นักเตะหลายคนในทีมก็ดูขาดๆ เกินๆ ไปหลายคน กับจังหวะต่างๆ น่าจะทำได้ดีกว่านี้ ก่อนที่จะเป็นเควิน เดอ บรอยน์, ฟิล โฟเด้น และราฮีม สเตอร์ลิ่ง ที่ทำประตูให้กับทีม และเป็นอเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ทำเข้าประตูตัวเองปิดท้าย
11 ตัวจริงในเกมนี้ของลิเวอร์พูล : อลีสซอน, โกเมซ, ฟาน ไดค์, โรเบิร์ตสัน, อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่, ไวจ์นัลดุม, มาเน่, ซาล่าห์, ฟีร์มิโน่