ช่วงขาลงของอินทรีเหล็กและโอกาสตกชั้น เนชั่นส์ ลีก

เล่นแล้วแพ้บ่อย จะโทษใครระหว่างนักเตะเยอรมันกับโค้ช

แฟนบอล ทีมชาติเยอรมัน อาจยังไม่เชื่อสายตาตนเองเมื่อได้เห็นทีมรักจมอยู่ก้นตารางของรอบแบ่งกลุ่มในเวที ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พร้อมโอกาสสุ่มเสี่ยงที่จะตกชั้นหลังพ่ายแพ้ให้กับ ฮอลแลนด์ ทีมคู่ปรับยุคคลาสสิก แบบหมดท่า 3-0 คงไม่เกินเลยไปหากจะพูดว่าทีมของ โยอาคิม เลิฟ กำลังตกอยู่ในสถานะวิกฤติในขณะนี้ ลางร้ายของ อดีตแชมป์ เวิลด์ คัพ 2014 เริ่มก่อตัวขึ้นเมื่อราว 4 เดือนที่แล้ว หลังจากที่พวกเขากระเด็นตกรอบแรกจากมหกรรมฟุตบอลโลก ที่ รัสเซีย จนล่าสุดที่สถานการณ์ภายในกลุ่ม A ของ เนชั่นส์ ลีก ก็ยังไม่ค่อยสู้ดีนักหลังจากเสมอกับ ฝรั่งเศส ในบ้านแบบไร้สกอร์ ก่อนจะบุกไปพ่ายยับเยินให้กับ ฮอลแลนด์ ที่ อัมสเตอร์ดัม อารีน่า จากการพ่ายแพ้ 5 ครั้งใน 9 เกมหลังสุดกลายเป็นดัชนีชี้วัดเส้นกราฟที่ทิ้งลงดิ่งของ เยอรมัน อย่างเห็นได้ชัด มันเกิดอะไรขึ้นกับทีมที่ออกสตาร์ท เวิลด์ คัพ 2018 ด้วยการเป็นเต็งสองที่จะคว้าแชมป์ โดยหนึ่งปีก่อนหน้านั้นพวกเขาก็พึ่งครองถ้วยรางวัล คอนเฟดเดอเรชั่นส์ คัพ 2017 ได้แบบชนิดไร้เทียมทาน?

กระสุนด้าน

จากสถิติในเกมล่าสุดที่พ่ายให้กับ กังหันสีส้ม พวกเขามีโอกาสสับไกทั้งหมด 21 ครั้ง แต่ยิงเข้ากรอบไปเพียงแค่ 4 หนเท่านั้น และนั่นก็สะท้อนให้เห็นถึงภาพรวมของโอกาสหน้าปากประตูคู่แข่ง ซึ่งอันที่จริงแล้วหากมองย้อนกลับไปจะเจอตัวเลขที่น่าสะพรึงยิ่งกว่า เพราะจากสถิติ 2 ประตูใน 5 นัดหลังสุดของทีมมาจากโอกาสยิงอันล้นหลาม 107 ครั้ง ถ้าจะควานหาผู้ที่ถูกเพ่งเล็งในนัดที่ผ่านมาก็คงหนีไม่พ้น โธมัส มุลเลอร์ ที่มีโอกาสเหน่งๆในกรอบเขตโทษตั้งแต่ต้นเกมแต่ดันหวดไปติดเซฟของ ยาสเปอร์ ซิลเลสเซ่น และอีกหนึ่งครั้งในช่วงครึ่งแรกที่ได้ใส่เต็มๆแต่บอลก็พุ่งเข้าข้างประตู ในขณะที่ เลรอย ซาเน่ ตัวสำรองที่ถูกเปลี่ยนลงมาในนาทีที่ 57 ก็ได้โอกาสโล่งๆตรงบริเวณกรอบ 6 หลาแต่ก็ได้แค่เฉี่ยวหน้าปากประตูหลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย รวมถึง ติโม แวร์เนอร์ และ ยูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์ ที่ต่างก็ใช้โอกาสไปอย่างสูญเปล่าเช่นเดียวกัน ในเวลานี้สิ่งที่ เลิฟ ต้องการมากที่สุดคงเป็นผู้เล่นแนวรุกซักคนที่สามารถแปรเปลี่ยนโอกาสให้เป็นประตูได้เพื่อสร้างความแตกต่างให้กับเกมของพวกเขา

รูปเกมสะเปะสะปะ

ในขณะที่ อินทรีเหล็ก เริ่มถูกปลุกให้ตื่นและทำผลงานกระเตื้องขึ้นในช่วงครึ่งหลัง หากแต่ 45 นาทีแรกของพวกเขาเป็นอะไรที่น่าผิดหวังอย่างยิ่ง และไม่คาดว่าจะเป็นฟอร์มที่เกิดขึ้นกับทีมระดับชั้นนำของโลก พวกเขามีสถิติผ่านบอลสำเร็จในพื้นที่สุดท้ายเพียงแค่ 69 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ซึ่งรวมถึงจังหวะแทงทะลุช่องไปตรงพื้นที่ที่ไม่มีใครเลยของ แวร์เนอร์ ก่อนสิ้นเสียงนกหวีดครึ่งเวลาแรก ก็ยิ่งสะท้อนให้เห็นถึงการประสานงานที่ไม่ลงตัวของผู้มาเยือน อีกทั้งการผ่านบอลกลางสนามที่ผิดพลาดของ เยโรม บัวเต็ง ก็เกือบทำให้ทีมเสียหายแต่เคราะห์ดีที่จังหวะยิงของ จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม ยังติดเซฟของ มานูเอล นอยเออร์ ซึ่งหากมองในภาพรวมแล้วทีมเจ้าถิ่นสามารถเก็บตกบอลจังหวะสองได้เกือบทั้งสิ้น ในขณะที่ เยอรมัน แทบจะต่อเกมกันไม่ได้เลยในช่วงครึ่งเวลาแรก

อินทรีเหล็ก กำลังลำบาก

แนวรับไร้ระเบียบ

ไม่บ่อยครั้งนักสำหรับทีมที่ขึ้นชื่อในเรื่องของระเบียบวินัยจะมีปัญหากับการจัดระบบภายในทีม แต่ในเวลานี้ ผลบอล ค่อนข้างสะท้อนเห็นได้ชัดว่า แนวรับของ เยอรมัน กำลังมีปัญหาที่น่าเป็นห่วง ตั้งแต่ประตูแรกที่พวกเขาเสียไปเมื่อตอนครึ่งชม.แรก โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากการอ่านทางบอลที่ผิดพลาดของ นอยเออร์ ที่ไม่ได้ออกมาตัดลูกเปิดจากมุมธง ก่อนที่ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ จะได้โฉบเข้าไปเก็บตกลูกโหม่งชนคานในจังหวะแรกของ ไรอัน บาเบล แบบโล่งๆ ท่ามกลางแนวรับของทีมเยือนที่ห้อมล้อมอยู่ตรงนั้นถึง 3-4 คน นอกจากนี้จังหวะเกมสวนกลับของ ฮอลแลนด์ ยังสร้างปัญหาให้กับ ทีมแชมป์โลก 4 สมัย ได้อกสั่นขวัญแขวนอยู่เป็นระยะ เมื่อพวกเขารอดพ้นการเสียประตูที่สองแบบต่อเนื่องไปอย่างหวุดหวิด ซึ่งต้องขอบคุณ มัทเธียส กินเทอร์ ที่พุ่งเข้ามาตัดบอลได้เสี้ยววินาทีก่อนที่ บาเบล จะปราดเข้ามาชาร์จลูกเปิดจากด้านข้างของ เดนเซล ดุมฟรีส์ แบบจ่อๆหน้าประตู

ความมั่นใจหดหาย

แม้ โทนี่ โครส จะพยายามปกป้องฟอร์มที่ออกทะเลไปไกลของทีมในนัดนี้ หลัง มิชาเอล บัลลัค ออกมาเปิดฉากโจมตีใส่ผลงานของกุนซือทีมชาติ แต่จากสิ่งที่เกิดขึ้นในสนามมันก็ค่อนข้างชัดเจนว่าพวกเขากำลังเดินสวนทางกับสิ่งที่ใครๆคาดหวัง และ เลิฟ ก็เป็นคนที่ต้องรับผิดชอบกับเรื่องนี้แบบหลีกหนีไม่พ้น เกมเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เป็นผลงานการทำทีมนัดที่ 168 ของเขาในฐานะผจก.ทีมชาติเยอรมัน แต่แน่นอนว่ามันคงเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่เขาคงไม่อยากจดจำ อันที่จริงแล้วปัญหาที่เกิดขึ้นกับเขาอาจเป็นผลกระทบที่ต่อเนื่องมาจากผลงานอันย่ำแย่ของ บาเยิร์น มิวนิค ในเวที บุนเดสลีกา ขณะนี้ ทีมยักษ์ใหญ่หมายเลข 1 ของเมืองเบียร์ กำลังเผชิญหน้ากับความกดดันหลังควานหาชัยชนะไม่เจอเลยใน 4 เกมหลังสุด และในขณะที่ไลน์อัพ 11 คนแรกของ เลิฟ ก็ประกอบไปด้วยผู้เล่นจาก ทีมเสือใต้ ถึง 5 คน

นอยเออร์, บัวเต็ง, มุลเลอร์, มัตส์ ฮุมเมลส์ และ โจชัว คิมมิช ล้วนได้รับโอกาสออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในเกมวันเสาร์ ซึ่งมันก็กลายเป็นประเด็นที่น่าสงสัยว่า พวกเขาเหล่านั้นมีปัญหาเกี่ยวกับความมั่นใจถดถอยที่ติดค้างมาจากต้นสังกัดหรือไม่ และนี่ก็อาจเป็นดาบสองคมของ วงการลูกหนังเยอรมัน ที่พยายามสถาปนา บาเยิร์น ขึ้นมาเป็นสถาบันหลักสำหรับปูทางนักเตะเข้าสู่แคมป์ทีมชาติ และไม่ว่าจะมีปัญหาใดๆนอกเหนือจากนี้แต่ เลิฟ ก็ไม่มีทางเลือกอื่น รวมถึง ขุนพลนักเตะอินทรีเหล็ก ที่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์หลังพิงฝาก็ต้องพยายามหล่อหลอมตนเองขึ้นมาใหม่ และมุ่งมั่นเดินหน้าพร้อมรวบรวมสมาธิไปยังทริปออกไปเยือน ฝรั่งเศส ในคืนวันอังคารนี้ เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถตกชั้นจาก เนชั่นส์ ลีก ได้อีกแล้ว หลังจากที่พึ่งก้มหน้าก้มตาเก็บกระเป๋ากลับบ้านจากทัวร์นาเมนต์ใหญ่ที่ รัสเซีย ตั้งแต่หัววัน

เนชั่นลีก